สวัสดีครับ ผมชื่อ เชิดพงศ์  วิสารทานนท์ เป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท กล้องดูดาว (ประเทศไทย) จำกัด ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ส่วนที่ เกี่ยวกับเรา บริษัทกล้องดูดาว(ประเทศไทย) จำกัด (About us) 

Cherdphong Visarathanonth

 

จุดเริ่มต้นครั้งวัยเด็ก

เมื่อครั้งผมยังเป็นเด็กผมเป็นคนนึงที่ทึ่งกับดวงดาวบนท้องฟ้าเป็นอย่างมาก  ด้วยความที่ผมมีความประทับใจในท้องฟ้าและอวกาศเป็นทุนอยู่แล้วทำให้มีอยู่วันหนึ่ง วันที่ทำให้วิชาดาราศาสตร์และ กล้องดูดาว เข้ามาอยู่ในชีวิตผมได้เริ่มขึ้น ช่วงนั้นเป็นช่วงประมาณเดือน มีนาคม พ.ศ. 2529 ที่ดาวหางฮัลเลย์ (Halley’s Comet) ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุด เป็นโชคดีมากที่วันนั้นมีการจัดกิจกรรมที่โรงเรียนโดยสมาคมนักดาราศาสตร์ ซึ่งในภายหลังได้เปลี่ยนเป็นชื่อ สมาคมดาราศาสตร์ไทย ใช้ชื่อย่อว่า “สดท” (Thai Astronomical Society) เป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกคึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นจุดเริ่มต้นครั้งวัยเด็กของผม

 

ภาพดาวหางฮัลเลย์โดย Comet P/Halley as taken March 8, 1986 by W. Liller, Easter Island, part of the International Halley Watch (IHW) Large Scale Phenomena Network. ปรับแต่งภาพโดย เชิดพงศ์ วิสารทานนท์ 2017
ภาพดาวหางฮัลเลย์โดย Comet P/Halley as taken March 8, 1986 by W. Liller, Easter Island, part of the International Halley Watch (IHW) Large Scale Phenomena Network.
ปรับแต่งภาพโดย เชิดพงศ์ วิสารทานนท์ 2017

 

มีกิจกรรมการบรรยาย ขายของ และการเสวนาจากอาจารย์ผู้มากประสบการณ์ทั้งหลายของประเทศไทย ถึงแม้ตอนนั้นผมยังเป็นเด็ก แต่ผมแวะไปมาในหลายๆ มุมของงาน ซึ่งบางเรื่องก็ฟังเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่งก็เถอ  แต่อย่างไรก็ตามหนึ่งในกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการดูดาวหางฮัลเลย์ด้วยตาตัวเองให้ได้  คิวต่อแถวดูดาวหางยาวเป็นหางว่าว ผมรอแล้ว รออีก จนเป็นเวลาที่ดึกมากสำหรับเด็กแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้ดูดาวสักทีเนื่องจากท้องฟ้าปิด และแล้วผมก็พลาดการเห็นดาวหางฮัลเลย์ด้วยตาตนเองไป  ในใจของเด็กจึงคิดว่า ถ้าเรามี กล้องดูดาว ไว้สักตัว เราคงสามารถที่จะหยิบกล้องขึ้นมาดูดาวหางอีกเมื่อไหร่ก็ได้  ที่บ้านของผมคุณพ่อและคุณแม่เป็นข้าราชการธรรมดาซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคา กล้องดูดาว ในสมัยก่อนนั้นสูงมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพสมัยนั้น และสิ่งนี้จึงทำให้เป็นเหมือนแรงบันดาลใจในการอยากมี กล้องดูดาว ไว้เป็นของตัวเองให้จงได้

เวลาผ่านไปหลายปีผมได้แต่ศึกษาเปิดอ่านหนังสือจากห้องสมุดเท่านั้น และไม่มีโอกาสได้สัมผัส กล้องดูดาว เลยสักครั้ง จนมีอยู่วันหนึ่งที่ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมค่ายดูดาวขึ้นที่โรงเรียน  ภาพของ กล้องดูดาว ยังติดตาผมได้ชัดเจน เป็น กล้องดูดาว ประเภทหักเหแสงท่อสีขาว ขาตั้งกล้องแบบอัลตาซิมุธ ซึ่งดูมีเฟืองอันน่าเกรงขาม หากใช้ไม่เป็นเกิดทำพังคงไม่มีเงินไปซื้อ กล้องดูดาว มาทดแทนเป็นอันแน่  แต่แล้วหลังจากกิจกรรมหลักจบลง ผมได้ขอพี่ที่คุม กล้องดูดาว ขอปรับ กล้องดูดาว ด้วยตัวเองซึ่งปรับผ่านก้านหมุนเป็นครั้งแรก ซึ่งแน่นอนครับ ตื่นเต้นมากที่ได้สัมผัส กล้องดูดาว จริงๆ เป็นครั้งแรกของชีวิต อะไรมันจะง่ายขนาดนี้ แค่ปรับแกนหมุนแนวราบและแนวดิ่ง เราสามารถเลี้ยงภาพดาวพฤหัสในกล้องดูดาวให้เพื่อน ๆ อีกหลาย ๆ คนที่ยืนต่อมาสามารถดูภาพดาวได้อย่างไม่เบื่อ และนี่เป็นสิ่งตอกย้ำยิ่งขึ้นไปอีกว่าสักวันผมจะต้องมี กล้องดูดาว เป็นของตัวเองให้ได้

หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาโททางด้านวิศวกรรมโครงสร้างและได้เข้าทำงานกับบริษัท มหาชนแห่งหนึ่งแล้ว แน่นอนครับเงินเดือนที่เหลือในเดือนแรกได้ถูกเตรียมพร้อมไว้สำหรับการซื้อ กล้องดูดาว มาใช้งานแน่นอน น่าเศร้ายิ่งนักที่ผมไม่เคยมีความรู้ในการใช้ กล้องดูดาว มาก่อน หลายๆ คนคงนึกว่า กล้องดูดาว ที่ดี คือ กล้องดูดาว ที่มีกำลังขยายมากๆ ดังนั้น กล้องดูดาว ตัวแรกในชีวิตของผมจึงถูกเจียดเงินอย่างบรรจงในการซื้อด้วยงบ 3 พันบาท กับกล้องหักเหแสงขนาด 60 มม. ซึ่งเป็นกล้องจีนไร้ชื่อในวงการ ที่ขายอยู่ในห้างค้าปลีกชั้นนำแห่งหนึ่ง  ข้างกล่องเขียนว่ากำลังขยายสูงสุด 640 เท่า ว่าว!!! คุ้มค่าอะไรเช่นนี้!!!!

เริ่มเป็นผู้ใช้สินค้ามือละอ่อน

จัดไป กับกล้องตัวแรก พอถึงที่บ้าน รีบทำการประกอบ กล้องดูดาว ให้พร้อมใช้งาน ซึ่งถือเป็นช่วงของการ เริ่มเป็นผู้ใช้สินค้ามือละอ่อน สิ่งที่ผมตั้งใจจะดูเป็นอย่างแรกเลยคือดวงจันทร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่และหาง่ายที่สุดในเวลานั้น กล้องตัวนั้นสามารถเห็นหลุมบนดวงจันทร์ได้ดี แต่แล้ว ความคุ้มค่าที่สุดจึงเริ่มขึ้น ผมนำเลนส์ใกล้ตามาใส่ barlow lens 2x และ 3x ซ้อนเข้าไป ทำให้เพิ่มกำลังขยายในทันที่ 6x เท่าของเดิม จากนั้นใส่ erecting eye 1.5 x ซ้ำเข้าไปอีก ตอนนี้มี  9x จากที่กล้องเดิมมี กล้องมีความยาวโฟกัส 700 มม และเลนส์ใกล้ตาขนาด 10 มม. ซึ่งทำกำลังขยายสูงสุดเบื้องต้น 70 เท่า จากนั้น จึงใส่ barlow lens ที่ซ้อนกัน 2 ตัว และ erecting eye 1.5 เท่า ได้เป็น 70×9 = 640 เท่า!!!! ตื่นเต้นมากๆ เพราะภาพที่เห็นของดวงจันทร์ เป็นภาพเบลอ ๆ กลม ๆ สีเหลืองนวล เมื่อค่อย ๆ ปรับโฟกัส ขนาดภาพเบลอๆ บวม ๆ เริ่มมีขนาดลดลง เล็กลง เล็กลง ไปเรื่อย ๆ จนหมุนต่อไปเรื่อย ๆ เอ๊ะ มันทำไมภาพมันกลับมาบวมขึ้น ใหญ่ ขึ้นไปเรื่อย ๆ   เอาใหม่ ลองหมุนกลับด้านดู เผื่อจะชัดขึ้น อีกครั้ง ขนาดภาพเบลอๆ บวม ๆ เริ่มลดลง เล็กลง เล็กลง ไปเรื่อย ๆ แล้วก็บวมๆ เริ่มใหญ่ ขึ้น มาอีกครั้ง

ความจริงที่ปรากฎ

ประสบการณ์ที่เล่าสู่กันฟังในครั้งนี้ทำให้เห็นความจริงที่ปรากฎขึ้นว่ากล้องที่โฆษณา กำลังขยายสูง ไม่สามารถโฟกัสภาพที่กำลังขยายสูงขนาดนั้นได้ มาถึงจุดนี้ผมขอแสดงความยินดีกับท่านที่ยังไม่ได้ซื้อกล้องจีน รวมถึงท่านที่ซื้อกล้องจีนด้วยเงินประมาณ 3 พันบาทมาแล้ว  ขอแสดงความยินดีสำหรับท่านที่ยังไม่ได้ซื้อกล้องดังกล่าวก่อน ท่านค่อย ๆ อ่านประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของเราในการขาย กล้องดูดาว ต่อไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าท่านจะพอใจแล้วมาเลือก กล้องดูดาว กับเรา โดยที่ท่านไม่ต้องเสียเงินซื้อประสบการณ์ส่วนตัวแบบผม และขอแสดงความยินดีกับท่านที่ซื้อกล้องจีนมาแล้วนั้น ท่านได้ซื้อประสบการณ์ตรงจากกล้องดังกล่าวไปแล้วโดยไม่ต้องมาอ่านบทความช่วงนี้อีก นี่จึงเป็นบทเรียนที่สำคัญทำให้ผมหารายละเอียดเกี่ยวกับกล้องและสามารถเลือกกล้องที่เหมาะได้กับตัวเองในเวลาถัดมา

กำลังขยายสูงสุดของ กล้องดูดาว โดยทั่วไป (ที่เป็น กล้องดูดาว จริง ๆ) จะอยู่ที่ประมาณ 30-40 เท่า ต่อขนาดหน้ากล้อง 1 นิ้ว นั่นหมายความว่า ถ้าท่านกำลังซื้อ กล้องดูดาว ขนาดหน้ากล้อง 150 มม.(6 นิ้ว) กล้องของท่านควรจะทำกำลังขยายสูงสุดได้ประมาณ 180 เท่าถึง 240 เท่า เมื่อส่องเข้ากับดวงจันทร์ และถ้าท่านได้กล้องในตำนานมา ท่านอาจได้กำลังขยายที่ประมาณ 60 เท่าต่อขนาดหน้ากล้อง 1 นิ้ว ซึ่งหมายความว่าพวก กล้องดูดาว ที่เรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋ว เช่น กล้องดูดาว ประเภทหักเหแสง triplet apo ที่ถูกผลิตขึ้นตามความต้องรายการสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณ 2-3 ปี  ด้วยหน้า กล้องดูดาว ประมาณ 80 มม. (3 นิ้วกว่า ๆ ) สามารถทำกำลังขยายได้สูงถึง 240 เท่าเลยทีเดียว! อันนี้จึงเรียกว่าของจริง!

สมัยนั้น กล้องดูดาว แบบที่ต้องการมีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่ เกือบ 5-6 หมื่นบาท (ในปี พ.ศ. 2546) ที่สำคัญ ต้องทำการมัดจำสินค้ากว่า 50% และรอสินค้าไม่น้อยกว่า 60 วัน เป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สุดท้ายจึงได้ลองสั่ง กล้องดูดาว เข้ามาจากต่างประเทศด้วยตัวเองเลย ภาพในใจของคนสมัยนั้นคือ กล้องดูดาว ต้องเป็นกล้องที่มีขาตั้งกล้องประเภท อิเควตอเรียล ผมจึงเลือกกล้องอิเควตอเรียลที่มีขนาดหน้ากล้องใหญ่สุดเท่าที่จะหาได้ในงบประมาณ ที่ตั้งไว้ และ กล้องดูดาว ตัวแรกของผมคือ กล้องดูดาว แบบนิวโตเนี่ยนขนาดหน้ากล้อง 8 นิ้ว f/4 ซึ่งมีความกว้างของกรวยแสงสูงมาก เมื่อใดที่มีโอกาสจะนำกล้องตัวนี้ออกไปใช้งานตามที่ต่าง ๆ ภาพที่ผมประทับใจมากที่สุดเลยครั้งแรกที่ได้รับจาก กล้องดูดาว นี้คือการได้เห็นภาพเนบิวล่าสว่างใหญ่

เนบิวล่าสว่างใหญ่ในกลุ่มดาวนายพราน (Orion Nebula)
เนบิวล่าสว่างใหญ่ในกลุ่มดาวนายพราน (Orion Nebula)

รู้จักกับการดูวัตถุท้องฟ้า

เอ… ว่าแต่ กล้องดูดาว ผมมันเสียหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันถึงเห็นเป็นภาพขาวดำไม่เห็นมีสีเหมือนในภาพที่เคยเห็นเลย และนี่จึงเป็นบทเรียนแรกๆ ของผมทำให้รู้ว่า หากคุณจะดูภาพวัตถุท้องฟ้า (Deep Space Object) ภาพที่คุณจะเห็น จะเป็นแค่ภาพขาวดำเท่านั้น จึงเป็นการรู้จักกับการดูวัตถุท้องฟ้าครั้งแรก ๆ ในชีวิตของผม  ด้วยความจริงที่ว่าไม่ว่า กล้องดูดาว ของคุณจะใหญ่แค่ไหนคุณก็จะไม่มีทางเห็นสีของมันได้ ไม่เหมือนดาวเคราะห์ต่างๆ ซึ่งมีสีแตกต่างกันไป สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการที่ปริมาณแสงจากวัตถุท้องฟ้ามีน้อย ทำให้เซลรับแสงภายในตาของเราทำงานแค่ rod cell ซึ่งมีความไวแสงมากกว่า cone cell ที่อยู่ตรงกลางซึ่งมีความไวแสงน้อยกว่าแต่สามารถแยกแยะสีได้

สำหรับมือใหม่การตั้ง กล้องดูดาว ประเภทอิเควตอเรียล ใช้เวลานานพอสมควร เริ่มจากการตั้ง 3 ขา แล้วเอา mount มาต่อครอบไป จากนั้นต่อแกนเหล็กเพื่อใช้สำหรับลูกตุ้มถ่วงตัวกล้อง จากนั้นจึงใส่ลูกตุ้ม ใส่กล้อง และทำการปรับสมดุลในแกน right ascension และ declination ตามลำดับ  อยากดูทีตั้งทีใช้เวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งตั้งไปตั้งมาตอนหลัง ๆ ก็ตั้งได้เร็วขึ้นนะครับ แต่แน่นอนศัตรูตัวฉกาจของการดูดาวมันคือเมฆนั่นเอง  คืนนี้ออกมาดูดาวหน้าบ้านเห็นฟ้าแจ่มใส่ พอตั้งกล้องเสร็จ ฟ้าปิดพอดี สุดท้ายเก็บกล้องเข้ากล่องเหมือนเดิม  เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จนการใช้งานของกล้องจาก 3 เดือนแรกใช้ เฉลี่ยเดือนละ 4-5 คร้้ง กลายเป็น ครึ่งปี ครั้ง และปีถัดๆ ไปเหลืออยู่ไม่กี่ครั้ง

เมื่อได้นำเข้ากล้องรวมถึงอุปกรณ์มาหลายๆ ครั้งเข้าทำให้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้ผลิตให้เป็นตัวแทนจำหน่าย กล้องดูดาว โดยก่อนหน้านี้ได้ทำการจำหน่าย กล้องดูดาว ในนาม บริษัท คลาสสิโค เวิลด์ จำกัด  หลังจากคลุกคลีอยู่ในตลาด กล้องดูดาว เกือบ 10 ปี เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับความเป็นมืออาชีพเฉพาะทางด้าน กล้องดูดาว กระผมจึงได้จัดตั้ง บริษัท กล้องดูดาว (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 เลขทะเบียนนิติบุคคล 0105560033455

เกี่ยวกับเรา บริษัท กล้องดูดาว(ประเทศไทย) จำกัด (About us) ในหน้านี้จึงได้กล่าวถึงเรื่องราวที่เป็นเราเพื่อให้ท่านผู้ซื้อมีความมั่นใจถึงประสบการณ์ การขายกล้องดูดาว และยิ่งไปกว่านี้ ด้วยเหตุผลดีๆ ที่จะต้องเลือกซื้อ กล้องดูดาวจาก บริษัท กล้องดูดาว(ประเทศไทย) จำกัด คือ

เหตุผลที่ต้องเลือกซื้อกล้องดูดาวกับ บริษัท กล้องดูดาว(ประเทศไทย) จำกัด

ด้วยความที่ผมเองเคยเป็นคนที่อยากมี กล้องดูดาว มาก่อนแต่ด้วยราคาที่สูงมากในสมัยก่อน บริษัท กล้องดูดาว (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้นำเข้ารวมถึงลดต้นทุนของเราเพื่อให้ได้ กล้องดูดาว ที่ราคาประหยัดไม่แตกต่างจากการนำเข้ามาจากต่างประทเศด้วยตัวเองเลย ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทของเราเป็นตัวแทนจำหน่ายตรงซึ่งได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยอันได้แก่ บริษัท Meade Instruments และ Orion Telescopes and Binoculars เหตุผลที่ต้องเลือกซื้อกล้องดูดาวกับ บริษัท กล้อวดูดาว(ประเทศไทย) จำกัด คือสินค้าที่ได้จากเรา

  1. เป็นสินค้าที่นำเข้าและชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะไม่มีการหิ้วของนำเข้าโดยทำการเลี่ยงการเสียภาษีแน่นอน ภาษีนี้จะได้ถูกนำกลับไปพัฒนาประเทศไทยของเราต่อไป
  2. กล้องดูดาว ที่จำหน่ายจากบริษัทเรานั้น ได้รับการรับประกันในคุณภาพและการบริการเทียบเท่ากับบริษัทของประเทศผู้ผลิต ท่านที่ซื้อ กล้องดูดาว จากเราไปจึงหมดกังวลถึงการปฏิเสธการให้บริการหลังการขายสินค้า
  3. เรามีความมุ่งมั่นในการให้ความรู้กับผู้ใช้ทุกคน หากท่านใดมาที่ร้านของเราแล้วมีเวลาเพียงพอ เราจะสอนการใช้งานให้ท่านจนท่านใช้อุปกรณ์ หรือ กล้องดูดาว นั้นจนเป็น ไม่เป็นเราไม่ให้กลับบ้านนะครับ
  4. ด้วยความเป็นมืออาชีพในการขาย กล้องดูดาว เราจึงรู้ถึงรายละเอียดและวิธีการใช้งานของผลิตภัณฑ์ของเรา และเราจะไม่ทำธุรกิจเฉพาะซื้อมาขายไปแล้วปล่อยให้ผู้บริโภคต้องตกอยู่ในสภาวะลองผิดลองถูกด้วยตัวของท่านเอง ท่านสามารถนำ กล้องดูดาว ที่ซื้อจากเราไป กลับมาให้เราสอนได้ใหม่เรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ท่านต้องการ โดยไม่คิดค่าบริการในการสอน
  5. เรารู้จักกลุ่มลูกค้าหลายประเภท ดังนั้น เราจึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละท่านได้ตรงตามความต้องการ เราจะไม่ทำการพรรณาถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เกินความเป็นจริง หรือทำการยัดเยียดผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงตามความต้องการให้ผู้ซื้อเหมือนบริษัทอื่นๆ ดังนั้นหากท่านต้องการซื้อผลิตภัณฑ์จากเราไปเราจะต้องทำการสัมภาษณ์ถึงความต้องการของท่าน เราจะถามและนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จนกว่าจะได้สินค้าที่ตรงตามวัตถุประสงค์และงบประมาณที่ท่านต้องการ
  6. เราไม่มีนโยบายการทำธุรกิจไม่โปร่งใสไม่ว่าในรูปแบบใดทั้งสิ้น เพราะจากปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “พออยู่พอกิน” เราเชื่อว่า  ความเชื่อมั่น และความสง่างามในการทำธุรกิจของเราจะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างมั่นคงในสังคมไทยต่อไปได้อย่างยั่งยืน
  7. เราพร้อมที่จะให้บริการนอกสถานที่ ทั้งการนำส่งสินค้า และการสอนการใช้งานผลิตภัณฑ์ในที่ต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากร้านของเราโดยอาจมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมตามสถานที่นั้น ๆ

ท่านสนใจผลิตภัณฑ์ของเราท่านสามารถติดต่อเราได้ที่ 095-460-6054 หรือ 087-033-5559 เราพร้อมให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย